โรงไฟฟ้าRDFพิจิตรร่วมสนับสนุนท้องถิ่นจัดประกวดการจัดการขยะมูลฝอยชุมชน
มีคำกล่าวที่ว่า
ในโลกนี้ไม่มีขยะหรือสิ่งของเหลือใช้เหลือทิ้งมีแต่สิ่งของที่วางไว้ไม่ถูกที่ถูกทาง
จึงกลายเป็นขยะแต่หากรู้วิธีคัดแยกขยะก็กลายเป็นของมีค่าและเปลี่ยนเป็นเงินได้
พิจิตรเมืองชาละวันจัดโครงการประกวดการจัดการขยะมูลฝอยชุมชน “อำเภอสะอาด”
เพื่อให้แต่ละท้องถิ่นตื่นตัวแข่งขันกันในการรักษาสิ่งแวดล้อม
งานนี้โรงไฟฟ้าRDF
ซึ่งตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมภาคเหนือตอนล่างพิจิตรเสนอตัวร่วมสนับสนุนท้องถิ่นเปลี่ยนขยะให้กลายเป็นเงินและเชื้อเพลิงผลิตกระแสไฟฟ้า
วันที่
25 ก.ย. 2563 นายสืบพงษ์ นิ่มพูลสวัสดิ์ ปลัดจังหวัดพิจิตร
ได้เป็นประธานในการประชุมเพื่อคัดเลือกผลงานของท้องถิ่นต่างๆจาก 9 อำเภอ
ของจังหวัดพิจิตรที่ส่งผลงานเข้าร่วมการประกวดการจัดการขยะมูลฝอยของชุมชน
“อำเภอสะอาด”ที่ห้องประชุมท้องถิ่นจังหวัดพิจิตร ชั้น 3 ศาลากลางพิจิตร
โดยมี เรือโทวิรัตน์ โอฐน้อย ท้องถิ่นจังหวัดพิจิตร และตัวแทนจากอำเภอต่างๆ
เข้าร่วมนำเสนอผลงานของแต่ละองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นระดับอำเภอที่ร่วมทำโครงการปลุกจิตสำนึกประชาชนและเยาวชนให้มีการร่วมกันบริหารจัดการขยะและการคัดแยกขยะ
ทั้งขยะเปียก ขยะแห้ง ขยะรีไซเคิล
ที่ต่างมีองค์ความรู้และเข้าใจถึงหลักการว่า
ในโลกนี้ไม่มีขยะหรือของเหลือใช้เหลือทิ้งจะมีก็แต่เพียงวางไว้ไม่ถูกที่และนำไปใช้ไม่ถูกทาง
หากรู้ลึก รู้จริง ทำจริง
ก็จะเข้าใจได้ถ่องแท้ว่าขยะสามารถเปลี่ยนเป็นเงินและสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้รวมถึงนำเศษวัสดุเหลือใช้มาดัดแปลงเป็นผลิตภัณฑ์หรือชิ้นงานต่างๆได้อย่างมากมาย
อีกทั้งขยะเหลือทิ้งเหลือใช้จากโรงงานอุตสาหกรรมประเภทเครื่องหนัง เศษไม้
เศษวัสดุจากงานก่อสร้างหรือจากโรงงานต่างๆ
สามารถมาทำเป็นพลังงานเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าในรูปแบบ โรงงานไฟฟ้า RDF
ได้อีกด้วย
โดยในส่วนของ
นายมนตรี หาญพิริยะสกุลชัย ผู้จัดการโครงการอาวุโสบริษัท ซุปเปอร์เอิร์ธ
เอนเนอร์ยี 6 จำกัด , นายประเสริฐ นาคนิคาม ผู้อำนวยการฝ่ายชุมชนสัมพันธ์
ซึ่งเป็นผู้บริหารของโรงไฟฟ้า RDF
ที่ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมภาคเหนือตอนล่าง อ.วชิรบารมี จ.พิจิตร
ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของภาคเอกชน
ที่เข้ามาเป็นผู้ร่วมสนับสนุนโครงการดังกล่าวนี้
ได้กล่าวว่า...โรงงานของเราขอเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนโดยโรงงานเป็นที่รองรับขยะจากชุมชน
ซึ่งสานต่อนโยบายของการบริหารจัดการชอง อ.วชิรบารมี
ในเรื่องการคัดแยกขยะจากชุมชน คัดแยกเศษวัสดุเหลือใช้จำพวกเหล็กหรือพลาสติก
เศษหนัง เศษไม้ รวมถึงวัสดุอื่นๆด้วย
ดังนั้นสิ่งที่เกิดจากการคัดแยกขยะจากชุมชนที่รวบรวมมาแล้วมีปริมาณมากน้อยแค่ไหนก็ตามก็สามารถมาใช้โรงงานไฟฟ้า
RDF
เพื่อการกำจัดขยะแต่ก่อให้เกิดประโยชน์เป็นวัตถุดิบในการสร้างเป็นกระแสไฟฟ้า
ซึ่งขยะจากส่วนนี้สามารถเปลี่ยนเป็นเงินเข้าสู่ชุมชนได้
ดังนั้นหากรู้และเข้าใจก็จะเข้าถึงกรรมวิธีในการคัดแยกเพราะต่อจากนี้ไป
“ขยะนั้นไม่ใช่ขยะอีกต่อไปแล้ว
แต่ขยะสามารถสร้างเป็นรายได้ให้กับชุมชนได้อีกด้วย”
รวมถึงการคัดแยกขยะและการนำกลับมาใช้ใหม่ก็จะเป็นส่วนหนึ่งในการทำให้สิ่งแวดล้อมในชุมชนน่าอยู่เพิ่มขึ้นตามวัตถุประสงค์ของโครงการ
“ อำเภอสะอาด”
ที่จังหวัดพิจิตรกำลังตื่นตัวดำเนินการอยู่ในทุกวันนี้อีกด้วย
นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัท ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
วัตถุประสงค์ในการเก็บข้อมูลส่วนบุคคล
เนื่องจากข้อมูลส่วนบุคคลจำเป็นต้องได้รับความคุ้มครองป้องกันอย่างเข้มงวด เพื่อความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของเจ้าของข้อมูล ไม่ว่าจะจัดทำขึ้นในรูปแบบใดและผ่านช่องทางใด บริษัทฯ จึงได้จัดทำมาตรความปลอดภัยนี้ขึ้น
เพื่อให้ความยินยอมแก่บริษัทฯ ในการดำเนินการจัดเก็บ ประมวลผล หรือนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้ตามวัตถุประสงค์ ดังนี้
· เพื่อติดต่อสื่อสาร แจ้งข้อมูลข่าวสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ และบริการของบริษัทฯ และนำเสนอโครงการที่ลูกค้าอาจจะสนใจ
· เพื่อจัดทำแผนการตลาด วิเคราะห์ ประมวลผลข้อมูลการใช้ รวมถึงการปรับปรุง พัฒนาผลิตภัณฑ์ และการบริการของบริษัทฯ
· ส่งให้แก่บุคคลที่สามหรือพันธมิตรทางธุรกิจของบริษัทฯ ที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ และ/หรือบริการของบริษัท
นโยบายการดูแลรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
เนื่องด้วยปัจจุบันเทคโนโลยีได้พัฒนาอย่างก้าวไกล ทางบริษัท ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้ประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และบริษัทในเครือ (“บริษัท”) ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการจัดเก็บฐานข้อมูลของลูกค้าผู้มีอุปการะคุณทุกท่าน โดยเฉพาะการป้องกันข้อมูลให้มีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับกฎหมายที่นำมาใช้บังคับ คือ พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พุทธศักราช 2562
โดยนโยบายนี้ใช้สำหรับการดูแลรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของ บริษัท ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ (“บริษัท”) สำหรับข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ไว้ผ่านช่องทางของบริษัท ทั้ง Offline และ Online เช่น เว็บไซต์ แอปพลิเคชัน โซเชียลมีเดีย (“Platform”) ซึ่งได้จัดทำขึ้นเพื่อให้ท่านสามารถค้นหา เยี่ยมชม ใช้ผลิตภัณฑ์และบริการ ของบริษัท และ/หรือ คู่ค้า (Business Partner) ของบริษัท เช่น
· ข้อมูล ข่าวสาร โปรโมชั่น ของผลิตภัณฑ์และการบริการ
· การดำเนินการใดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการ
ก่อนที่ท่านจะใช้งานเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชั่นนี้ ขอความร่วมมือท่านอ่านข้อกำหนด เงื่อนไข และนโยบายการดูแลรักษาข้อมูลส่วนบุคคล หากท่านไม่สามารถยอมรับข้อกำหนด เงื่อนไขและนโยบายการดูแลรักษาข้อมูลส่วนบุคคล ใคร่ขอให้ท่านยุติการใช้งานเว็บไซต์นี้ทันที หากท่านตกลงใช้งานต่อไป ถือว่าท่านยินยอมตามข้อกำหนด เงื่อนไข และนโยบายการดูแลรักษาข้อมูลส่วนบุคคล โดยบริษัท มีนโยบายการดูแลรักษาข้อมูลส่วนบุคคล ดังนี้
1. คำนิยามศัพท์
“ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคล ซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม
“มาตรการ” หมายถึง มาตรการความปลอดภัยเพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
“บริษัท” หมายถึง บริษัท ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)และบริษัทในเครือ รวมถึงบริษัทร่วมทุน
“เจ้าของข้อมูล” หมายถึง ลูกค้า หรือผู้ใช้บริการเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชั่นของบริษัท
“คุกกี้ (Cookies)” หมายถึง ข้อมูลที่ได้ส่งจากเว็บไซต์ไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์ของผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ ในขณะที่ผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์นั้นกำลังเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์
“Log” หมายถึง ข้อมูลที่เกิดจากการใช้งานแอปพลิเคชั่น ซึ่งรวมถึงแหล่งกำเนิด ต้นทาง ปลายทาง เส้นทาง เวลา วันที่ ปริมาณ ระยะเวลา ชนิดของบริการ หรืออื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการใช้งานของแอปพลิเคชั่น
2. การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
2.1 บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทได้รับ โดยทางตรงหรือทางอ้อม อันประกอบด้วย
o ข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ นามสกุล เพศ อายุ สัญชาติ วันเกิด สถานภาพสมรส ที่อยู่ อาชีพ สถานที
ทำงาน รหัสไปรษณีย์ ที่อยู่ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (Email address) หมายเลขโทรศัพท์
o ข้อมูลสิ่งที่ท่านสนใจ เช่น รูปแบบผลิตภัณฑ์และการบริการที่ท่านสนใจ งานอดิเรก กิจกรรม Social
Network ที่ใช้ประจำ กีฬา หรือการท่องเที่ยว และอื่นๆ
o ข้อมูลในการตัดสินใจเลือกหรือไม่เลือกผลิตภัณฑ์และการบริการ เช่น เหตุผลในการซื้อ หรือเลือกที
อยู่อาศัย งบประมาณ วัตถุประสงค์ ผลิตภัณฑ์อื่นที่ใช้เปรียบเทียบ ความเห็นเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และการบริการ ข้อมูลการเข้าชมผลิตภัณฑ์และการบริการ
o ข้อมูลซึ่งระบุตำแหน่งพื้นที่ของท่านขณะที่ใช้งานเว็บไซต์ กรณีที่ท่านเปิดการใช้งานระบบ GPS ให้ถือ
ว่าท่านให้ความยินยอมกับบริษัทในการเก็บรวบรวมและประมวลผลตำแหน่งพื้นที่ของท่านขณะใช้งานดังกล่าว อย่างไรก็ตามถ้าท่านต้องการปกปิดข้อมูลนี้ ท่านสามารถติดตั้งโปรแกรมหรือปิดระบบ GPS บนโทรศัพท์มือถือของท่านได้
o พฤติกรรมการสืบค้นข้อมูลในเว็บไซต์ โดยบริษัทมีสิทธิใช้คุกกี้ (Cookies) เป็นเครื่องมือในการเก็บ
รวบรวมข้อมูล เช่น
§ หมายเลขไอพี (IP address)
§ ชนิดของเว็บเบราว์เซอร์ (Web browser) ที่ใช้ในการเข้าถึง
§ หน้าเว็บ (Web page) ที่เข้าเยี่ยมชม
§ เวลาที่เยี่ยมชม
§ เว็บไซต์ที่อ้างถึงเว็บของบริษัท
o พฤติกรรมการใช้งานแอปพลิเคชั่น โดยจะมีการเก็บ Log การใช้งานของท่านจากบนแอปพลิเคชั่น
ของทางบริษัท
o ข้อมูลที่ท่านจำเป็นต้องให้ไว้แก่บริษัท และบริษัทสามารถประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้นได้ตามที่
กฎหมายกำหนดโดยไม่ต้องขอความยินยอม ได้แก่
§ การให้ข้อมูลเพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย หรือ สัญญา หรือมีความจำเป็นต้องให้ข้อมูลเพื่อเข้า
ทำสัญญา หรือข้อมูลอื่นใดตามที่กฎหมายกำหนด หากท่านไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน บริษัทอาจไม่สามารถดำเนินการให้แก่ท่าน ตามที่ท่านประสงค์ หรือที่บริษัทได้แจ้งไว้ต่อท่าน หรือมีผลอื่นใดตามกฎหมาย
§ การให้ข้อมูลที่เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย เช่น การเก็บภาพของ
ท่านในการจัดกิจกรรมต่างๆ ของบริษัท เป็นต้น
o ข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ซึ่งบริษัทจะขอความยินยอมจากท่านก่อน
2.2 บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพียงเท่าที่จำเป็น หรือเพื่อประโยชน์ตามวัตถุประสงค์ใน
การเก็บรวบรวม และเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดเท่านั้นทั้งนี้ บริษัทอาจเก็บข้อมูลของโดยแปลงเป็นข้อมูลไม่ระบุตัวตนกรณีที่มีการเชื่อมต่อกับเว็บไซต์ หรือโฆษณาอื่นที่ไม่ใช่ของบริษัท นโยบายการรักษาข้อมูลส่วนบุคคลจะเป็นไปตามที่เว็บไซต์นั้น ๆ กำหนด โดยบริษัทไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด
2.3 วิธีการเก็บข้อมูลส่วนบุคคล เช่น
o ผ่านช่องทางของบริษัท เช่น ทางอิเล็กทรอนิกส์ เอกสาร ด้วยวาจาตามสถานการณ์ หรือ
o ผ่านช่องทางของคู่ค้า/ผู้ให้บริการอื่น เช่น Facebook, Instagram, Twitter, Tiktok, Line, Google Analytics, Google Map, Google Tag Manager และ YouTube เพื่อการสร้างข้อมูลของท่าน (Profiles) หรือตัวแทน (Agent) เป็นต้น
2.4 เด็ก
บริษัทไม่มีเจตนาที่จะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนตัวจากเด็กอายุน้อยกว่าเกณฑ์ตามที่กฎหมายกำหนด (“ข้อจำกัดด้านอายุ”) หากท่านมีอายุน้อยกว่าข้อจำกัดด้านอายุ โปรดอย่าใช้บริการของบริษัท และอย่าให้ข้อมูลส่วนตัวใดๆ แก่บริษัท
หากท่านเป็นบิดามารดาของเด็กที่มีอายุน้อยกว่าข้อจำกัดด้านอายุ และทราบว่าบุตรของท่านได้ให้ข้อมูลส่วนตัวแก่บริษัท โปรดติดต่อบริษัท และสามารถขอใช้สิทธิของท่านได้
หากท่านเป็นเด็กที่มีอายุน้อยกว่าข้อจำกัดด้านอายุ และมีความจำเป็นในการรับบริการและผลิตภัณฑ์ของบริษัท ขอให้บิดามารดาให้ความยินยอมในการให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
3. วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม/การใช้/การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
3.1 เพื่อการทำรายการตามที่ท่านประสงค์ เช่น กรณีท่านลงทะเบียนขอรับข้อมูล บริษัทจะจัดเก็บและใช้เฉพาะข้อมูลพื้นฐาน เช่น ชื่อ-นามสกุล ที่อยู่ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (Email address) หมายเลขโทรศัพท์เพื่อใช้สำหรับติดต่อกลับ
3.2 เพื่อการแก้ไข ปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานของเว็บไซต์และแอปพลิเคชั่น การจัดทำแผนการตลาด วิเคราะห์ข้อมูลการใช้ ประเมินการบริการ รวมถึงการปรับปรุง พัฒนาผลิตภัณฑ์และการบริการของบริษัท
3.3 เพื่อติดต่อสื่อสาร แจ้งข้อมูลข่าวสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัท รวมถึงสิทธิประโยชน์ โปรโมชันที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ และบริการดังกล่าว หรือการเปลี่ยนแปลงใดๆ ที่เกี่ยวกับนโยบายการดูแลรักษาข้อมูลส่วนบุคคลในอนาคต
3.4 เพื่อดำเนินการตามสัญญาที่ท่านเป็นคู่สัญญา รวมถึงกับคู่สัญญาที่บริษัทใช้บริการ เช่น แบ่งปันข้อมูลตำแหน่งพื้นที่ของท่าน กรณีบริษัทใช้บริการเพื่อการระบุตำแหน่งพื้นที่ของบุคคลอื่น
3.5 เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย เช่น เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล การศึกษาวิจัยหรือสถิติซึ่งได้จัดให้มีมาตรการปกป้องที่เหมาะสม ทั้งนี้เพื่อคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของท่าน
3.6 เพื่อวัตถุประสงค์อื่นที่ได้แจ้งขณะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือวัตถุประสงค์อื่นที่เกี่ยวข้องกับข้อหนึ่งข้อใดข้างต้น
3.7 บริษัทจะไม่ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เว้นแต่ เป็นการใช้หรือเปิดเผยเท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ข้างต้น หรือเป็นการเปิดเผยต่อบุคคลในบริษัท หรือบุคคลที่เกี่ยวข้องตามสัญญา หรือดำเนินการตามกฎหมาย หน่วยงานภาครัฐ หน่วยงานกำกับดูแล หรือได้รับความยินยอมจากท่าน
4. ผู้ที่อาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
4.1 คู่ค้าของบริษัท พนักงานของบริษัทที่เกี่ยวข้อง
4.2 ผู้ที่ได้รับอนุญาตเป็นตัวแทนของบริษัท ในการเสนอขายผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัท รวมถึงตัวแทนผู
รับจ้างของบุคคลนั้น
4.3 บุคคลอื่น รวมถึงตัวแทน ผู้รับจ้างของบุคคลนั้น ซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัท
การจัดกิจกรรมทางการตลาด การเสนอข้อมูลข่าวสารของบริษัท รวมถึงการพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัท เช่น การรับชำระเงิน การจัดทำข้อมูลเอกสาร ระบบเทคโนโลยี การส่งเอกสาร และการวิจัย เป็นต้น
4.4 หน่วยงานภาครัฐ หรือหน่วยงานกำกับดูแล หรือบุคคลใดที่บริษัทต้องเปิดเผยข้อมูล ภายใต้กฎหมาย
ระเบียบ คำสั่ง ที่เกี่ยวข้องกับบริษัท หรือตามข้อตกลงที่บริษัทมีต่อหน่วยงานภาครัฐ หรือบุคคลอื่นใด
5. การรักษาความปลอดภัยของข้อมูล
5.1 บริษัทใช้ Secure Socket Layer (SSL) ซึ่งเป็นมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลที่รับส่งผ่าน
อินเทอร์เน็ต รวมถึงมีการเข้ารหัสข้อมูลและจัดตั้ง Firewall โดย Secured Socket Layer (SSL) เป็นเทคโนโลยีในการเข้าสู่ข้อมูลผ่านรหัส เพื่อป้องกันผู้ที่แอบดักจับข้อมูลขณะที่มีการส่งผ่านเครือข่าย Internet การเข้าสู่ข้อมูลผ่านรหัสนี้จะทำให้ผู้ดักจับไม่สามารถเข้าใจความหมายของข้อมูลได้ นอกจากนี้ เทคโนโลยีนี้ยังใช้สำหรับการยืนยันความมีอยู่จริงของเว็บไซต์อีกด้วยบริษัทจะมีการปรับปรุงและทดสอบระบบเทคโนโลยีของบริษัทอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมีความปลอดภัยสูงสุดและน่าเชื่อถือ ในการนี้ บริษัทสงวนสิทธิในการเปลี่ยนแปลงเครื่องมือการรักษาความปลอดภัย หากบริษัทเห็นว่าเครื่องมือดังกล่าวมีมาตรฐานสูงขึ้นและสามารถรักษาความปลอดภัยของข้อมูลได้ดีมากยิ่งขึ้น
5.2 กรณีบริษัททำความตกลงไว้กับบุคคลภายนอกในการพัฒนาและดูแลรักษาระบบ และการจัดสรร
ทรัพยากรหรือบริการในนามของบริษัท บุคคลภายนอกที่เข้ามาดำเนินงานให้บริษัท หรือดำเนินการในนามของบริษัท จะต้องตกลงรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วยเช่นกัน
6. สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
6.1 ท่านที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิขอเข้าถึง ขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับท่านซึ่งได้ให้ไว้
และอยู่ในความควบคุมของบริษัท หรือขอให้เปิดเผยการได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ท่านไม่ได้ให้ความยินยอม เว้นแต่ เป็นการคุ้มครองเจ้าของข้อมูล หรือสิทธิเสรีภาพของบุคคลอื่น เป็นการขัดหรือแย้งกับบทบัญญัติแห่งกฎหมายหรือคำสั่งศาล หรือกรณีอื่นตามที่กฎหมายกำหนด
6.2 ท่านสามารถแจ้งยกเลิกให้บริษัทใช้งานข้อมูลส่วนบุคคล หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความ
ยินยอมไว้ได้ภายหลังจากการยกเลิกดังกล่าว บริษัทอาจไม่สามารถให้บริการท่านได้อย่างเต็มความสามารถ หรือตามที่บริษัทได้แจ้งไว้ต่อท่านได้ ทั้งนี้ บริษัทอาจเก็บข้อมูลไว้เพื่อการตรวจสอบการให้บริการแก่ท่าน หรือเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย โดยบริษัทจะไม่นำข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่นอีกต่อไป
6.3 หากบริษัทไม่ดำเนินการรักษาข้อมูลส่วนบุคคลตามที่กฎหมายกำหนด ท่านสามารถขอให้บริษัทดำ
เนินการทำลาย ลบ หรือระงับใช้ชั่วคราว หรือแปลงข้อมูลส่วนบุคคลให้อยู่ในรูปแบบข้อมูลที่ไม่ระบุชื่อ
6.4 สิทธิอื่นใดตามที่กฎหมายกำหนด เช่น สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล การระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล
การคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วยเหตุบางประการได้
6.5 ท่านสามารถดำเนินการตามสิทธิข้างต้นโดยแจ้งทาง อีเมล: info@supercorp.co.th หรือ โทร 02-361-5599
โดยบริษัทจะพิจารณาและแจ้งผลการพิจารณาคำขอของท่าน ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่บริษัทได้รับคำขอดังกล่าว
7. กิจการเกี่ยวกับการตลาดและการส่งเสริมการตลาด
ในกรณีที่บริษัทส่งข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการตลาด และการส่งเสริมการตลาด รวมถึงผลิตภัณฑ์ การบริการ และกิจการที่น่าสนใจให้แก่ท่าน หากท่านตกลงรับข้อมูลข่าวสารดังกล่าวแล้ว ประสงค์จะยกเลิกการรับข้อมูลดังกล่าว ท่านสามารถดำเนินการได้โดยแจ้งทางอีเมล: info@supercorp.co.th หรือ โทร 02-361-5599
8. ข้อยกเว้นการดูแลรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
ในกรณีที่ไม่ถือว่าเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนต่อนโยบายการดูแลรักษาข้อมูลส่วนบุคคล เช่น
8.1 ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นได้ถูกเปิดเผยต่อสาธารณะแล้วตั้งแต่เวลาท่านได้เปิดเผยข้อมูลให้บริษัท หรือถูกเปิดเผยต่อสาธารณะโดยมิใช่ความผิดของบริษัท
8.2 การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยได้รับความยินยอมจากท่านไม่ว่าเป็นลายลักษณ์อักษร หรือการอนุญาต
โดยวิธีการอื่นใด
8.3 การเปิดเผยข้อมูลตามความจำเป็น เนื่องจากกระทำตามกฎหมาย คำสั่ง กฎข้อบังคับ คำสั่งศาล
หน่วยงานของรัฐ หรือตามความจำเป็นอื่นใด
9. ระยะเวลาการเก็บข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ในระยะเวลาเท่าที่จำเป็น เพื่อให้บริการแก่ท่าน หรือดำเนินการตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้
10. การปรับปรุงนโยบายการดูแลรักษาข้อมูลส่วนบุคคล / การติดต่อบริษัท
10.1 บริษัทอาจมีการปรับปรุงแก้ไข รายละเอียดเกี่ยวกับนโยบายการดูแลรักษาข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งหมดหรือ
บางส่วน ถ้ามีการแก้ไข บริษัทจะปรับปรุงนโยบายการดูแลรักษาข้อมูลส่วนบุคคลทางเว็บไซต์
10.2 ผู้ใช้งานสามารถแสดงความคิดเห็นต่อนโยบายการดูแลรักษาข้อมูลส่วนบุคคล ได้ที่ “ติดต่อ ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี ” ทั้งนี้ ผู้ใช้งานตกลงให้ดุลยพินิจของบริษัทถือเป็นที่สุด
่เว็บไซต์นี้ ให้บริการโดย บริษัท ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (ในที่นี้รวมเรียกว่า “SUPER” หรือ “เรา”) เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้และเครื่องมืออื่นเพื่อช่วยแยกแยะรูปแบบการใช้งานเว็บไซต์ของท่านจากผู้ใช้งานอื่นๆซึ่งจะช่วยให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีจากการใช้งานเว็บไซต์และช่วยให้เราสามารถพัฒนาคุณภาพของเว็บไซต์ให้ดียิ่งขึ้น กรณีที่ท่านใช้งานเว็บไซต์นี้ต่อไป ถือว่าท่านได้ยินยอมให้เราติดตั้งคุกกี้ไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์ของท่าน
คุกกี้ คือ ไฟล์ข้อความขนาดเล็กที่ถูกดาวน์โหลดไปยังอุปกรณ์คอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์มือถือของท่าน ซึ่งทำหน้าที่บันทึกข้อมูลและการตั้งค่าต่าง ๆ เช่น บันทึกข้อมูลการตั้งค่าภาษาในเบราว์เซอร์บนอุปกรณ์ของท่าน บันทึกสถานะการเข้าใช้งานในปัจจุบันของท่าน เพื่อช่วยให้ท่านสามารถเข้าใช้งานเว็บไซต์ได้อย่างต่อเนื่อง รวมถึงมีการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับประวัติการเข้าชมเว็บไซต์ที่ท่านชื่นชอบในรูปแบบไฟล์ โดยคุกกี้ไม่ได้ทำให้เกิดอันตรายต่ออุปกรณ์ของท่าน และเนื้อหาในคุกกี้จะถูกเรียกออกมาดูหรืออ่านได้โดยเว็บไซต์ที่สร้างคุกกี้ดังกล่าวเท่านั้น
คุกกี้จะบอกให้เราทราบว่าท่านเข้าชมส่วนใดในเว็บไซต์ของเราเพื่อที่เราจะสามารถมอบประสบการณ์การใช้ งานเว็บไซต์ที่ดีขึ้นและตรงกับความต้องการของท่านได้ นอกจากนี้การบันทึกการตั้งค่าแรกของเว็บไซต์ด้วยคุกกี้จะช่วยให้ท่านเข้าถึงเว็บไซต์ด้วยค่าที่ตั้งไว้ทุกครั้งที่ใช้งาน ยกเว้นในกรณีที่คุกกี้ถูกลบซึ่งจะทำให้การตั้งค่าทุกอย่างจะกลับไปที่ค่าเริ่มต้น
• ช่วยจำสถานะของการใช้บริการ เช่น ภาษาที่เลือกใช้
• ช่วยจำคำตอบที่ท่านเคยตอบไปแล้ว ซึ่งจะช่วยให้ท่านไม่ต้องตอบคำถามเดิมซ้ำอีก
• ให้บริการฟังก์ชัน Social Media Sharing ซึ่งจะช่วยให้ท่านสามารถแบ่งปันเนื้อหาที่สนใจบนเครือข่ายสังคมออนไลน์ (Social Network)
ทั้งนี้ เพื่อการให้บริการและเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ท่านในการใช้บริการตามตัวอย่างข้างต้น เรามีการใช้งานโปรแกรมเสริม (Plugin) และบริการของบุคคลที่สาม เช่น Google Analytics, Facebook Analytics, True hits
เมื่อใดก็ตามที่ท่านต้องการยกเลิกความยินยอมการใช้งานคุกกี้ ท่านจะต้องตั้งค่าเบราวเซอร์ของท่านเพื่อให้ลบคุกกี้ออกจากแต่ละเบราวเซอร์ที่ท่านใช้งาน